วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

วูบเดียว[1]

วูบเดียว... คงเป็นคำจำกัดความที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับฉันในเวลานี้


เพราะมันก็แค่วูบเดียวของความรู้สึก..ความรู้สึกอะไรหรือ..
ความรู้สึกหวั่นไหว ในทิศทางที่ไม่ควรจะเป็นน่ะสิ



ในคืนที่อากาศเย็นชื้น ด้วยสายฝนที่พร่างพรูลงมาเฉกเช่นคืนนี้
ฉันทำได้เพียงนั่งมองเงาอันเลือนลางของตัวเองที่
สะท้อนจากหน้าต่างกระจกสีชา
สายฝนสีใสตกกระทบขอบรั้ว ..
สายน้ำกระเซ็นเป็นหยาดหยดมาที่หน้าต่าง
ฉันเอื้อมมือไปวาดนิ้วตามหยดน้ำที่ปล่อยตัวลู่ลง
ตามแรงดึงดูดของโลก...
ไม่ช้านาน หยดน้ำนั้นก็หายไปจากขอบกระจก
และยังคงมีหยดน้ำใหม่ ๆ เพิ่มเติมมาอีกไม่หยุดหย่อน


หากจะเปรียบความรู้สึกของฉันเป็น หยดน้ำฝนใส ๆสักหยด
ที่ไหลร่วงลงสู่พื้นดินอย่างรวดเร็ว
ก็คงจะไม่ผิดอะไร เพราะมันไม่ยั่งยืน ไม่คงทน
ไม่มั่นคง ไม่จีรัง และไม่มีวันเป็นจริง


อะไรที่ทำให้ฉันเฝ้าคิดแบบนั้น..
.อะไรกันที่ทำให้คนอย่างฉันรู้สึกว่า
"ระหว่างเรา" มันช่างห่างไกลกันเหลือเกิน....


อาจเพราะคุณเป็นคนที่ดีจนเกินไป
อาจเพราะฉันเป็นคนที่ไม่มีอะไรดีเลย...
อาจเพราะฉันด้อยค่านัก หากเทียบกับใครต่อใครที่ใกล้ตัวคุณ
อาจเพราะโลกของเรามันต่างกัน...
มันต่างกันมากกว่าที่คุณหรือใครจะเข้าใจ
อาจเพราะภาระที่ฉันแบกรับอยู่ ...
สิ่งที่ไม่สามารถคาดหวังได้ว่า
ใครจะกล้ามาร่วมเดินในเส้นทางนี้กับฉัน
อาจเพราะ ฉันคงทำได้เพียงสะกด
คำว่า "รัก"ได้ แต่หาได้เข้าใจความหมายของมัน


ฉันคิดเสมอว่า ...ในห้วงความรู้สึกบางขณะ..
ฉันอยากให้มันเป็นอยู่เช่นนั้นตลอดไป
ไม่หวังให้มากขึ้น... ไม่อยากให้น้อยลง...
แต่ในความเป็นจริงของชีวิต ทุกก้าวที่ชีวิตต้องดำเนินไป
ทุกสิ่ง มีขึ้น และ มีลง
ไม่เคยมีอะไรที่แน่นอน และคงที่เลยสักครั้ง....


ถ้าเช่นนั้น ขอให้ฉันได้แค่คิดถึงคุณก็คงจะเพียงพอ...
เพราะฉันไม่สามารถก้าวข้ามไปมากกว่าคำนี้อีกแล้ว...


..............................................



ฉันจบบทสุดท้ายของความรู้สึกวูบเดียวนี้ด้วยการฉีกกระดาษ
ที่เขียนข้อความด้านบนทั้งหมด...
พับมัน..ใส่ซองจดหมายสีฟ้าอ่อน..
ก่อนจะเขียนที่อยู่ของผู้รับที่หน้าซอง...
ที่อยู่เขา ที่ฉันจำได้อย่างแม่นยำ..
เมื่อแสตมป์ถูกติดลงบนซอง ...สิ่งที่รอคอยก็เพียงแค่เวลา
จะนำข้อความเหล่านี้ไปถึงเขา

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น