วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552
เพื่อนสนิท
เธอเดินมาโน่นแล้ว ..
เด็กหญิงร่างกลม ๆ กับผมสั้น และผิวขาวอมชมพู
หน้าขาว ๆ ของเธอ ในแสงแดด ดูแล้วน่ารักนัก
แม้ว่าผมซอยสั้นแทบจะเหมือนผู้ชายของเธอ
ทำให้แทบทุกคนในชั้นเรียน เรียกเธอว่า "ยัยทอม"
แต่สำหรับผม.. มันไม่ใช่เลย
เธอก็คือเธอ เพื่อนสนิท.. เพื่อนสนิทของผม
..
"เอาน้ำมากินมั่ง ร้อน ๆ " เธอเอ่ยสั่ง มือก็ชี้งุด ๆมาที่แก้วน้ำในมือผม
ชาเย็นเกือบครึ่งแก้วหายไปในเวลารวดเร็ว
เมื่อแก้วที่มีหยดน้ำเกาะอยู่รอบถูกวางลงบนโต๊ะ
แววตาแสนซนก็ฉายวาบในดวงตาคู่นั้น
"เย็นนี้ไปเล่นน้ำกันนะ..เอก" น้ำเสียงเธอกระตือรือล้น
"ที่ไหน .. ท้ายนาฝั่งโน้นน่ะเหรอ .. "
ผมเห็นรอยยิ้มที่ระบายอยู่ทั้งนัยน์ตาและริมฝีปากของเธอ
"อื้อ .. ไปนะ .. เราไปชวนแพนกะนุชก่อน " ว่าจบ เธอก็เดินอย่างสบายใจ
ไปชวนเพื่อนซี้อีกสองคนของเธอ
ผมก็ได้แต่มองเธอเดินจากไป..ก่อนที่เพื่อน ๆ
ผู้ชายจะมาตามขาตะกร้ออีกคนที่ขาดอยู่
แดดเริ่มอ่อนลง ผมกับเธอ เดินข้ามคันนาไปยังคลองที่อยู่ปลายนา
อีกฟากของโรงเรียน
เธอสะพายกระเป๋าเป้สีเขียวเอาไว้บนหลังวิ่งตุกตัก ๆ
ส่วนผมก็ถือทั้งกระเป๋านักเรียนสีดำ
และปิ่นโตของตัวเอง วิ่งตุเลง ๆตามเธอไป..
ก่อนที่เท้าของเราจะค่อย ๆ ผ่อนความแรงลง เมื่อถึงริมคลอง
ที่ตรงนั้นเป็นแอ่งลึกลงไป มีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่แผ่ปกคลุมสร้างความร่มรื่น
ราวกับเป็นโอเอซิสกลางทะเลทราย
แม้ผมผ่อนฝีเท้าลงแล้วก็ตาม แต่ก็เกือบสะดุด เมื่อคนหน้าเล่นหยุดกึกเอาดื้อ ๆ
"อ้าว หยุดทำไม"
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนกอหญ้าตรงนั้น
เข่าทั้งคู่ถูกชันขึ้นมาให้เจ้าของกอดเอาไว้...
ทำท่าแบบนี้ แสดงว่า.. เหงา หรือ เศร้า
"จะเล่นน้ำให้สนุกซะหน่อย สองคนนั้นดันไม่มาด้วยกัน เซ็งเลย"
ผมเห็นคิ้วผูกโบว์ของเธอแล้วกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เลยปล่อยขำก๊ากออกไป
เธอหันขวับมาจ้องเขม็งใส่หน้าผม และแม้รู้ว่า ดวงตาคู่นั้นเพ่งกระแสพิโรธมา
แต่ผมก็มีความสุขเกินกว่าจะกลัว
"ขำอะไร คนบ้า "
"เอ้า เธอแหละบ้า ก็สองคนนั้นเค้าไม่อยากมาเอง
แล้วไปเซ็งทำไม เราก็เล่นน้ำกันสองคนก็ได้นี่"
" ไม่ลงไม่เล่นแล้ว นั่งเล่นดีกว่า " พูดพลาง มือก็คว้าก้อนหินก้อนเล็ก ๆ
ข้างตัวปาลงน้ำ.. เสียงดัง จ๋อม..
" เรียกชื่อตัวเองทำไม ยัยเพี้ยน " ผมเริ่มแกล้งเธอ
"ใครเรียกอะไร บ้าเหรอ เธอแหละเพี้ยน " หินอีกก้อนหล่นลงน้ำ.. เสียงดัง จ๋อม..
"ก็นั่นไง จ๋อม ..จ๋อม.." ผมหัวเราะ
และไม่ลืมมองดูสีหน้าของเจ้าของชื่อที่ถือหินอยู่ในมือไว้อีกก้อน
เธอเองก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ แต่ก็ยังปาลงน้ำ ... เสียงดัง ..
"จ๋อม เรารักเธอ " .. ผมหุบปากฉับ เพราะดวงตาที่เบิกกว้างหันมาทางผม
แก้มของเธอเป็นสีแดงระเรื่อ แต่ริมฝีปากนั้นเม้มไว้แน่น
จนเหมือนเธอใช้ฟันขบมันไว้มากกว่า
ช่วงเวลาตรงนั้น.. เหมือนหยุดนิ่งสนิท ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ระหว่างเรา
ไม่มีคำพูด หรือเสียงหัวเราะ .. มีเพียงเสียงลมหายใจและเสียงสายลม
แต่เธอก็เป็นฝ่ายพูดก่อน .. เพียงแต่ ..
"ถ้าเธอพูดแบบนี้อีก เราจะต่อยเธอ"
สีหน้าที่ขึงขัง ดูจริงจังนั้น ที่ทำให้ผมพยักหน้ารับ ..เงียบ ๆ
เราไม่ได้คุยอะไรกันต่อ แต่ต่างคนก็ต่างรีบกลับบ้าน
อาจเพราะตะวันเริ่มจะลาลับฟ้าแล้ว..
หรือ..
อาจเพราะ... คำพูดของเธอ
ประโยคนั้น .. ที่ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผมตลอดมา
"ถ้าพูดแบบนี้อีก เราจะต่อยเธอ"
.........
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น