วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2552

พูดไม่ออก


ดื่มน้ำกันเถอะ

หยดน้ำที่เกาะรอบแก้วเครื่องดื่มค่อย ๆไหลลงนอง
เป็นวงน้ำรอบแก้วบนพื้นโต๊ะม้าหินอ่อน
อาจเพราะแรงลมที่พัดแรง หรือไม่ก็เพราะไอร้อนที่ยังคงไม่จางไป 
เพราะตะวันยังคงแค่บ่ายคล้อย

หญิงสาวผมยาว ในชุดนักศึกษานั่งมองแก้วน้ำในมือ..
ปลายนิ้วเขี่ยหลอดสีหวานในแก้วเครื่องดื่มอย่างคนใช้ความคิด

เดือนกว่าแล้วนะ.. ที่ระหว่างเขาและฉัน มันดูไม่เหมือนเดิม..
คล้าย ๆว่าจะเปลี่ยนไป
ฉันไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาต้องมีโมโหกับเรื่องเล็กน้อยที่ฉันทำ

เอาล่ะ..ฉันยอมรับว่า ฉันอาจเป็นคนเริ่มต้นของ
สาเหตุเรื่องราวหมางเมินระหว่างเรา
แต่สำหรับฉันแล้ว.. พี่ต้น ก็เป็นแค่คนอื่น เป็นแค่รุ่นพี่ที่ฉันนับถือ
วันนั้น ฉันแค่เบื่อที่เขาที่ดูจะคลั่งไคล้กับหนังเรื่องนั้น.. 
ทำเหมือนกับว่า มันเป็นอะไรที่สำคัญมากกว่าอย่างอื่น
ฉันแค่อยากจะเป็นคนสำคัญ สำหรับคนที่ฉันรัก..ก็แค่นั้น..มันยากนักหรือไง
ทั้งที่ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ว่าง ใจหวังว่า เขาจะถามไถ่เรื่องงานของฉันบ้าง
..แต่เปล่าเลยเขากลับไปดูหนังคนเดียว .. 

แล้วไงล่ะ ฉันก็แค่อยากจะเป็นคนพิเศษ
แต่คนที่ฉันหวังให้เขามอบความพิเศษให้กลับไม่อยู่กับฉัน
ถ้าเขามาเฝ้ารอฉัน.. มีหรือเราจะไม่ได้ไปดูหนังด้วยกัน
แต่นี่เขากลับมองข้ามฉันไป
และการที่ฉันไปกับพี่ต้น ก็ในฐานะ รุ่นพี่ รุ่นน้อง ก็เท่านั้นเอง.. 
ทำไมเขาต้องเอามาเป็นอารมณ์ด้วยก็ไม่รู้

ตั้งแต่วันนั้น.. เขาก็ห่างออกไป..
โทรมาวันละครั้ง บางทีก็เว้นหลายวันถึงโทรมา
พอฉันไม่ว่างคุย เขาก็เงียบ และวางไป
ไม่ใส่ใจ ซักถามเหมือนเคย .. แบบนี้มันน่าเบื่อนะ
จากอาการเบื่อหน่าย.. กลายเป็นความชาชิน

แต่ถ้าถามว่า ยังรักไหม .. แน่นอนล่ะ ฉันรักเขา


..

นั่นไง เขาเดินมาโน่นแล้ว 
ฉันรู้สึกเหมือนตัวเอง หน้าแตกยังไงก็ไม่รู้ 
..เมื่อส่งยิ้มให้อย่างไม่รู้ตัว แต่กลับมาแต่สีหน้าเฉยเมยตอบกลับมา

"รอนานไหม"

"อืม.. ก็พักนึง อาร์ทมีอะไรเหรอ?" ฉันไม่รู้ว่าเขานัดฉันทำไม
หรือระหว่างเราอาจมีอะไรดี ๆ ขึ้น

เขาถอนหายใจ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับฉัน 
โต๊ะม้าหินอ่อนทรงกลม ที่มีเก้าอี้ล้อมรอบ 4 ตัว เขาเลือกตัวที่ห่างฉันที่สุด
แต่ก็ตรงข้ามพอที่จะประจันหน้าได้

" ตอนนี้แป้งรู้สึกยังไงกับอาร์ท .. "

ฉันสงสัยในคำถามของเขา.. คำถามโง่ ๆ ..
ก็ยังรักน่ะสิ ตาบ๊อง แค่เบื่อหน่ายบ้างก็แค่นั้น
แต่คำตอบของฉัน ก็ไม่ได้หลุดออกไป
เพราะคำพูดของเขาที่ตามมาในทันที

"แต่ไม่ว่าจะยังไงนะ.. อาร์ทว่า.. เราไปกันไม่รอดหรอก
อาร์ทดูแลแป้งได้ไม่ดี อาร์ทไม่เข้าใจแป้ง "

".. " ฉันอยากถามกลับไปว่า ไม่เข้าใจยังไง
แล้วทำไมไม่ปรับตัว เราคบกันมาเกือบปี 
เวลาที่ผ่านมามันน้อยนักหรือยังไง
ถึงไม่มีโอกาสจะเรียนรู้จักกันจริง ๆบ้าง.. แต่ ก้อนสะอื้นก็จุกอยู่ที่คอ.. 
ฉันกลัวเหลือเกินว่า ถ้าพูดอะไรออกไป..สิ่งที่ตามมาคือ..น้ำตา

" แป้ง .. แป้งอย่าเงียบแบบนี้สิ ..เฮ้อ... "
ฉันคงจะยอมให้น้ำตามันไหลไปพร้อมคำพูดหรอกนะ..
หลังจากเห็นแววตาคล้ายจะสำนึกผิดของเขา
แต่.. มันไม่ใช่หรอก.. ไม่ใช่เลย 
เพราะฉันคงลืมสังเกตุไปว่า ที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขา
มีหญิงสาวคนหนึ่งสวมหมวกกันน๊อคยืนอยู่ใกล้ ๆ..

ฉันถอนหายใจ แต่ไม่กล้ายิ้ม ไม่กล้าพูด 
ไม่สิ..เรียกว่า เหตุผลมันตำตาจนไม่ต้องหาคำอธิบาย
หรือต้องตอบรับอะไรอีกแล้ว

 


..ตอนหน้า "อ้อมแขนที่ว่างเปล่า"....

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น