วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

เครื่องจักรสีแดง -1-


ฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ไม่ค่อยมั่นใจนักกับความรัก
จะเพราะเหตุผลอะไร 
ก็ยากที่จะอธิบายเหตุผลได้
แต่แค่เพียงใครสักคนเอ่ยคำรักต่อกัน ฉันก็รู้สึกเจ็บปวดข้างใน 
ฉันริษยาพวกเขาสินะ..หรือเพราะฉันคอยแต่จะคิด
ให้คนอื่นยื่นความพิเศษนี้ให้กับฉัน 
แต่ตัวฉันไม่เคยคิดจะก้าวออกไปให้ความสำคัญเช่นนี้กับใครก่อน.. 



ในค่ำคืนของ ฤดูร้อน อากาศอบอ้าวเหมือนทุกคืน
ทว่า ฉันไม่อนาทรร้อนใจ 
มิใช่เพราะไอเย็นของเครื่องปรับอากาศ
ที่โรยความเย็นเหนือหัวของฉันหรอกนะ 
แต่เป็นเพราะว่า พวกเพื่อนๆของฉันที่มีคู่รัก 
ต่างก็ต้องหงอยเหงากัน บ้างก็ติดงานไม่ใส่ใจให้เวลาอีกฝ่าย 
บ้างก็มีปัญหาเรื่องความเห็นไม่ลงรอย..




ส่วนฉันนั้นน่ะหรือ..ก็ลอบยิ้มอย่างเลือดเย็นน่ะสิ..
อย่างที่บอก..ฉันเป็นตัวร้ายในกลุ่ม 
การเป็นคนที่รู้สึกว่า ตัวเองอยู่นอกกลุ่มเสมอๆน่ะ..
มันเป็นความลำบากใจอย่างหนึ่งเชียวนะ 
แต่ฉันก็แปรมันให้เป็นรอยยิ้มและสดใสยามอยู่พร้อมหน้า 
แม้หน้าชื่นอกตรมก็ตามที 
แต่มันก็ดีกว่า ที่ฉันจะแสดงความหงอยเหงาเพราะตัวไม่มีคู่ออกไปมิใช่หรือ 





ฉันเริ่มราตรีอันยาวนานด้วยการต่อสายโทรศัพท์
การท่องเที่ยวในโลกไซเบอร์ 
เป็นอีกหนึ่งงานอดิเรกที่ฉันหลงใหล..
ฉันไม่ลืมที่จะออนไลน์ เอ็มเอสเอ็นด้วย 



ถึงจะตีสีหน้าว่าระรื่น ฉันก็ยังคงต้องการเพื่อน 
แต่ในเมื่อพวกเพื่อนฉันในโลกของความจริง 
ต่างก็นั่งจมความทุกข์อยู่ โดยไม่ต้องการให้ฉันเข้าไปยุ่ง..
ก็แน่ล่ะ เรื่องของคนรักกัน ต้องเคลียร์กันเอง




ช่างน่าแปลก..คืนนี้ไม่ค่อยมีคนออนไลน์กันเท่าไหร่เลย..
ฉันกวาดตาไปตามรายชื่อในลิสต์ 
ไม่มีเพื่อนซักคนเลยแฮะ..ฉันรำพึงกับตัวเอง.. 
แต่ช่างเถอะ ทำไมฉันต้องสนใจด้วย ในเมื่อยังมีอะไรอีก 
หลายอย่างที่ฉันอยากเรียนรู้และศึกษา 



แต่..จู่ๆ ก็มีหน้าจอเล็ก ๆทักขึ้นมา
แสดงถึงการทักทายจากคู่สนทนาคนใดคนหนึ่ง 



เครื่องจักรสีแดง : :)




ฉันเลิกคิ้วอย่างสงสัย ใครกัน เครื่องจักรสีแดง..
ฉันกลับไปมองในลิสต์อีกครั้ง 
แต่ไม่มีชื่อเมลล์ของเขาอยู่ในลิสต์ของฉัน.. 
ถ้าอย่างนั้น ก็หมายความว่า ฉันลบเขาไปแล้วน่ะสินะ..




รอยยิ้มที่มุมปากปรากฏขึ้น..ถึงการพูดคุยกับคนแปลกหน้า
และเป็นผู้ชาย จะทำให้ฉัน 
ไม่ค่อยสนอกสนใจนักก็ตาม.. แต่การมีเพื่อนคุยบ้างในเวลาเบื่อ ๆ
ก็เป็นการฆ่าเวลาไปอีกแบบ 
ไม่แน่..ฉันอาจสร้างบาดแผลจากคำพูดให้คนๆนี้ได้โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวก็ได้ ..
ประกายตาเจ้าเล่ห์ฉายวาบ ขึ้นมา ก่อนที่ฉันจะตอบเขากลับไป 



สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : ดีค่ะ 
เครื่องจักรสีแดง : สวัสดีครับ ไม่ว่างหรือครับ




แปลกดีที่ฉันคิดถูกว่า เขาเป็นผู้ชาย
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมเขาถึงต่อในทันทีที่ทักทาย 
และฉันก็ถึงบางอ้อ..เมื่อเห็นว่า ตัวเองตั้งสถานะ " ยุ่ง " เอาไว้เอง
อีกทั้งการพิมพ์ข้อความตอบกลับไปก็ช้าด้วย




สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : นิดหน่อยค่ะ




ฉันอมยิ้มกับคำตอบของตัวเอง...
หลังจากหันหน้าไปเปิดหน้าเว็บอื่น ๆ ใจก็อดคิดไปถึง 
เมื่อครั้งหัดเล่นโปรแกรมเอ็มเอสเอ็นใหม่ ๆ ไม่ได้ 
ครั้งนั้น ใครก็ตามที่ถามว่า ว่างหรือเปล่า ฉันจะรีบตอบทันที 
ว่า "ว่างค่ะ" แต่กาลเวลาเปลี่ยนไปแล้ว...
สิ่งที่ฉันเจอะเจอในที่แห่งนี้ อาจแปรความอ่อนไหวและไร้เดียงสา 
ให้เป็นอะไรสักอย่าง...ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป..




ฉันหันกลับไปอีกที ก็รู้สึกประหลาดใจ 
เพราะนายเครื่องจักรสีแดงพิมพ์มาหลายประโยคแล้ว 
ในขณะที่ฉันมัวแต่ใจลอยอยู่ 



เครื่องจักรสีแดง : หรือครับ 
เครื่องจักรสีแดง : ทำงานอยู่หรือครับ 
เครื่องจักรสีแดง : พอจะมีเวลาคุยกันสักนิดได้ไหมครับ




ฉันนั่งตัวตรง เพราะถ้อยคำที่สุภาพจนเหมือนฉาบด้วยความไม่จริงใจ..
ฉันคงมองโลกแง่ร้ายเกิน 
ไปก็เป็นได้ ฉันเหยียดยิ้มกับถ้อยคำนั้น ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป




สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : ค่ะ ได้ค่ะ




ฉันตอบสั้น ๆ แม้ใจหนึ่งอยากจะกลับไปดูข้อมูล
เรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เปิดค้างไว้เมื่อครู่ 
แต่ฉันกลับนั่งมองรอคอยข้อความจากเขา 
เหตุผลอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนผิดมรรยาทกันนะ 
ทั้งที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยคิดสนใจมรรยาทกับ
คู่สนทนาในโลกออนไลน์เรื่อยมา..
แต่ก็ยกเว้นบางคน 



เครื่องจักรสีแดง : ขอบคุณครับ :) 
เครื่องจักรสีแดง : นอนดึกอย่างนี้ประจำหรือครับ 
สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : ค่ะ




ฉันตอบสั้น ๆ แสร้งไม่ใส่ใจที่จะคุยกับเขานัก แต่ก็อดที่จะแอบมองว่า 
เขาจะตอบกลับมาทันที 
หรือเปล่า..ซึ่งก็ใช่




เครื่องจักรสีแดง : เหรอครับ พรุ่งนี้หยุดงานหรือครับ




ฉันขมวดคิ้วอย่างงุนงง พรุ่งนี้เช้า คือวันจันทร์ ซึ่งแน่ล่ะ 
ต้องไม่หยุดงานแน่อยู่แล้ว แต่ฉันมัน 
พวกนั่งลงหน้าจอแล้วถอนตัวลำบาก 
นอกจากจะอ่อนเพลียจริง ๆ ถึงจะรีบนอน




สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : พรุ่งนี้วันอะไรคะ? 
เครื่องจักรสีแดง : พรุ่งนี้วันอังคารครับ




เอาแล้วไง..เขานับตามเวลาแท้จริง
เพราะคืนนี้เป็นคืนวันอาทิตย์ แม้จะล่วงเลยผ่านเที่ยงคืน 
ย่างเข้าสู่วันจันทร์แล้วก็ตาม แต่ความคิดฉันยังรู้สึกว่า มันคือวันอาทิตย์อยู่ 



สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : นี่คุณนับตามเวลาจริงๆเลยเหรอ 
เครื่องจักรสีแดง : ครับ 
เครื่องจักรสีแดง : เอ่อ..ถ้าอย่างนั้น วันนี้ก็วันอาทิตย์ก็ได้ครับ




ดูเขาสิ..พูดยังไงกันนะ แค่เรื่องเวลา ก็ทำให้ฉันมึนงงไปหมดแล้ว 
ฉันไม่ได้รำคาญหรือเบื่อหน่าย 
เขาแต่อย่างใด แต่ข้อมูลที่ต้องการ โหลตเรียบร้อยแล้ว
ฉันจึงแวบไปอ่านเรื่องที่กำลังสนใจ ปล่อยให้เวลาเดินไปเรื่อย ๆ... 



เครื่องจักรสีแดง : ผมรบกวนเวลางานคุณหรือเปล่าครับ 



ฉันยิ้มกว้าง ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับ




สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : ไม่ค่ะ อืม..แล้วคุณออนไลน์ดึกอย่างนี้บ่อยๆหรือคะ 
เครื่องจักรสีแดง : เปล่าครับ ผมเพิ่งกลับจากข้างนอก 
เลยเข้ามาเช็คเมลล์ ไม่คิดว่าจะมีคนออนไลน์ดึกขนาดนี้




นี่เขาว่าฉันอย่างนั้นหรือ..นี่แค่สองยาม 
ไม่เห็นจะดึกอะไรกันนักกันหนา กับคนที่เวลาปั่นป่วน 
อย่างฉัน ไม่เคยคิดว่า ตัวเองนอนดึกเลยด้วยซ้ำ แต่ก่อนที่ฉันจะตอบกลับไป




เครื่องจักรสีแดง : คุณออนไลน์เวลานี้ทุกคืนหรือครับ 
สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : ค่ะ 


ฉันจะถือว่า เขาไม่ได้ตั้งใจพูดแขวะฉันก็แล้วกัน..ฉันบอกกับตัวเอง 


เครื่องจักรสีแดง : ครับ คุณทำงานเกี่ยวกับอะไรครับ 
สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : การท่องเที่ยวค่ะ แล้วคุณ? 
เครื่องจักรสีแดง : ดนตรีครับ 
สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็น : เล่นดนตรี หรือขายเครื่องดนตรีคะ 
เครื่องจักรสีแดง : สอนดนตรีครับ 



ฉันหัวเราะเฝื่อนๆ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้แสดงออกว่า 
ฉันหน้าแตก 
แต่ก็นะ...เรื่องแบบนี้ 
ก็เข้าใจผิดกันได้




0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น